ขนแกะ (fleece)

ขนแกะ (fleece)

ขนแกะเป็นผลิตหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ได้จากการเลี้ยงแกะ โดยแบ่งขนแกะออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
1. ขนแกะเส้นใยละเอียด หรือเรียกว่า วูล (wool) เป็นขนแกะที่นำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด
2. ขนแกะเส้นใยหยาบ หรือเรียกว่า แฮร์ (hair) หรือ เคมพ์ (kemp)

ลักษณะเด่นของขนแกะเส้นใยละเอียด (wool)

1. มีรูพรุนสูง สามารถดูดซับความชื้นได้ดีกว่าเส้นใยชนิดอื่น และสารถดูดซับความชื้นได้มากถึงร้อยละ 18 ของน้ำหนักเส้นใย
2. มีคุณสมบัติในการกันความร้อน และกันความหนาวเย็นได้ดี
3. มีน้ำหนักเบา
4. มีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นได้ดี สามารถยืดตัวได้ถุงร้อยละ 30 ของความยาวเส้นใยปกติ และสามารถคืนกลับเป็นเส้นใยได้ปกติ ไม่เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม รวมถึงทนต่อการหักพับหรือการยับย่น
5. ย้อมติดสีได้ง่าย สีย้อมที่ติดมีความคงทน เหมาะสำหรับการใช้ย้อมด้วยสีแอสิด (Acid Dyes)
6. มีความเหนียวสูงเทียบเท่าเหล็กกล้า
7. หากติดไฟจะไม่เกิดการลุกลาม และเมื่อนำห่างไฟก็จะดับได้ง่าย
8. มีความคงทน มีอายุการใช้งานยืนนาน
9. สามารถตีหรือทอเป็นเส้นได้ดี รวมถึงสามารถทอเป็นผืนได้ดี

ทั้งนี้ ขนแกะสามารตัดได้ 1 ปี/ครั้ง แกะหนึ่งตัวที่หนักประมาณ 30 กิโลกรัม จะให้ขนแกะได้ประมาณ 2.30 กิโลกรัม และเมื่อล้างทำความสะอาด และตากแห้งแล้วจะเหลือน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม โดยการเลี้ยงแกะแบบปล่อย และแบบกักขัง ไม่มีผลต่อปริมาณการให้ขนแกะ การให้ลูก และน้ำหนัก แต่การเลี้ยงแกะแบบขังจะให้น้ำหนักของขนแกะหลังการล้างมากกว่าการเลี้ยงแบบปล่อย และแกะที่เลี้ยงใน 1 ปี สามารถตกลูกได้ 2 ครั้ง มีระยะการตกลูกประมาณ 215-220 วัน และมีโอกาสเกิดลูกแฝดสูง ถึงร้อยละ 60.8 หรือในแม่แกะ 10 ตัว จะมีแม่แกะ 6 ตัวสามารถให้ลูกแฝดได้ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แกะสามสายพันธุ์ที่ประเทศไทยนิยมเลี้ยง

ข้อดีและประโยชน์จากการเลี้ยงแกะ